เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  นายสี จิ้นผิง  ประธานาธิบดีจีนได้พบปะกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่กรุงปักกิ่ง  ระหว่างการพบปะ  นายสี จิ้นผิงได้กล่าวว่า  “ยามตกทุกข์ได้ยาก ทำให้ได้เห็นถึงความจริงใจ”   ซึ่งในวันนั้น  หลังเสร็จสิ้นการเยือนเกาหลีใต้แล้ว  สมเด็จฮุนเซนได้ตัดสินใจเปลี่ยนแผนก่อนกลับประเทศโดยกะทันหันว่าจะเยือนประเทศจีน  สมเด็จฮุนเซนกล่าวว่า  เราจะยืนข้างรัฐบาลและประชาชนจีน  ร่วมทุกข์ร่วมสุข  ร่วมเอาชนะความยากลำบากด้วยกัน

หลังเกิดโรคระบาดครั้งนี้  นานาประเทศได้แสดงความเข้าใจและการสนับสนุนจีนในการต่อต้านการแพร่ระบาดผ่านวิธีการต่างๆ ตัวอย่างเช่น

นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า  ปากีสถานเชื่อมั่นว่า  จีนสามารถแสดงความได้เปรียบของระบอบปกครองที่มีเอกลักษณ์ของตน เอาชนะการต่อสู้ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้  ขณะเดียวกัน  ปากีสถานก็ยินดีระดมสิ่งของทางการแพทย์และทุนสำรองของประเทศช่วยเหลือประเทศจีน  โดยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์  รัฐบาลปากีสถานได้จัดส่งหน้ากากอนามัย 300,000  อัน ชุดป้องกันทางการแพทย์  800 ชุด และถุงมือ  6,800 คู่ที่รวบรวมจากโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศมาถึงยังประเทศจีน

รายงานข่าวระบุว่า  จนถึงเที่ยงวันที่ 2 กุมภาพันธ์  11 ประเทศ อันได้แก่ เกาหลีใต้  ญี่ปุ่น  อังกฤษ  ฝรั่งเศส  ตุรกี  ปากีสถาน  คาซัคสถาน  ฮังการี  อิหร่าน  เบลารุส  อินโดนีเซีย  และกองทุนเด็กสหประชาชาติได้บริจาคสิ่งของช่วยเหลืองานป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดส่งมาถึงยังประเทศจีนแล้ว

อนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้  บนโลกโซเชียลจีนมีภาพวาดรูปหนึ่งสร้างความอบอุ่นประทับใจให้กับชาวเน็ตจีนอย่างมาก โดยภาพนี้มีตัวเอกคือ “หมี่แห้งร้อน-เย่อกันเมี่ยน” อาหารถิ่นขึ้นชื่อของเมืองอู่ฮั่น  ที่นอนป่วยอยู่บนเตียงคนไข้และมีแพทย์พยาบาลคอยดูแล ส่วนด้านนอกหน้าต่างมีต้นหอมใหญ่ ซาลาเปา หม้อไฟ ฯลฯ อาหารถิ่นขึ้นชื่อของพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีน มาเฝ้าให้กำลังใจอย่างล้นหลาม    ซึ่งภาพนี้ได้กลายเป็นประเด็นร้อนอย่างรวดเร็ว และเกิดกระแสที่ชาวเน็ตจำนวนมากได้โชว์อาหารพื้นเมืองของบ้านเกิดตนเพื่อให้กำลังใจแก่อู่ฮั่น

“แม้คนกับคนจะถูกโรคระบาดขวางกั้นให้ต้องแยกห่างกัน  แต่ใจกับใจยังคงเชื่อมถึงกันเป็นหนึ่งเดียว”  โรคภัยไข้เจ็บทำให้ประชาชนจีนที่ต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านมีความสามัคคีและรักกันแน่นแฟ้น อาศัยความได้เปรียบของระบอบปกครองและความพยายามของมวลชนทั้ง 1,400 ล้านคน ย่อมเอาชนะสงครามต้านโรคระบาดครั้งนี้ได้แน่นอน (ZYPYZRV)