ทุกปีช่วง 5 วันแรกของเดือนพฤษภาคม จะเป็นวันหยุดของชาวจีน เพื่อเฉลิมฉลองวันแรงงานสากล 1 พ.ค. และวันเยาวชนแห่งชาติ 4 พ.ค. หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "วันหยุดยาวเล็กๆ" ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ตลาดผู้บริโภคของจีนมีความคึกคักเป็นพิเศษของทั้งปี การบริโภคแบบใหม่ เช่น การบริโภคการท่องเที่ยว การบริโภคสีเขียว การบริโภคเชิงประสบการณ์ และการบริโภคที่ชาญฉลาด เป็นต้น ได้กลายเป็นจุดเติบโตที่สําคัญในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ

ในโครงสร้างการพัฒนาใหม่ของจีน การบริโภคเป็นแรงผลักดันอันดับแรกของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งการบริโภคแบบใหม่เป็นกําลังสําคัญในการขยายความต้องการของผู้บริโภค สำหรับคำว่า "ใหม่" ในการบริโภคแบบใหม่นั้นคืออะไร แล้วขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างไรนั้น มาเริ่มต้นทำความเข้าใจกันก่อน จากหลักการพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์การเมืองที่ว่า วัฏจักรทางเศรษฐกิจประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ การผลิต การกระจาย การหมุนเวียนและการบริโภค ซึ่งการบริโภคเป็นจุดสิ้นสุดและก็เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของวัฏจักรทางเศรษฐกิจ การบริโภคอยู่ในฐานะพื้นฐานในการผลิตซ้ำทางสังคม พูดง่าย ๆ ก็คือ หากไม่มีการบริโภค ก็ไม่สามารถกระตุ้นให้ภาคธุรกิจลงทุนในการผลิตได้ ซึ่งใน "โครงสร้างการพัฒนาใหม่" ที่นําโดยนายสี จิ้นผิง ผู้นําสูงสุดของจีน การขยายความต้องการการบริโภคของประชาชนเป็นพื้นฐานเชิงกลยุทธ์ในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ และไม่ได้หมายถึงความต้องการการบริโภคของอุตสาหกรรมค้าปลีกในความหมายดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมใหม่ และการใช้อุปทานที่มีคุณภาพสูง เพื่อสร้างอุปสงค์การบริโภคใหม่ กล่าวได้ว่า การใช้อุตสาหกรรมเกิดใหม่อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่ เพื่อสร้างตลาดผู้บริโภคใหม่ที่แข็งแกร่ง อันเป็นที่ตั้งของคำว่า "ใหม่" ในการบริโภคแบบใหม่ ยกตัวอย่าง การบริโภคดิจิทัล เช่น การถ่ายทอดสดขายของ บริการส่งถึงบ้าน การแพทย์และออกกําลังกายออนไลน์, การบริโภคเฉพาะตัวส่วนบุคคล เช่น การออกแบบบ้านอัจฉริยะทั้งหลัง ห้องลองเสื้อดิจิทัลและความงามออนไลน์ส่วนตัว, การบริโภคแบบดื่มด่ำสัมผัสประสบการณ์เต็มที่ เช่น การท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงวีอาร์ เป็นต้น ซึ่งการบริโภครูปแบบใหม่เหล่านี้ เป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญในการพัฒนาการบริโภคของจีนในขณะนี้

ตลาดสําหรับการบริโภครูปแบบใหม่ของจีนมีขนาดใหญ่แค่ไหน ยกตัวอย่าง รถยนต์พลังงานใหม่ รถยนต์พลังงานใหม่ของจีนยังคงรักษาตําแหน่งผู้นําระดับโลกในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ การขับขี่อัจฉริยะ และการควบคุมส่วนบุคคล ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ผู้บริโภคเรียกว่า "รู้จักตัวเองมากขึ้น" ปัจจุบัน รถยนต์ใหม่ 4 ใน 10 คัน ที่ขายในประเทศจีนเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ สัดส่วนนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น มณฑลไหหลําในฐานะเกาะการค้าเสรีจะห้ามขายรถยนต์เชื้อเพลิงภายในปี 2030 และสามารถขายได้เฉพาะรถยนต์พลังงานใหม่เท่านั้น นี่ไม่ยากที่จะเข้าใจว่า ทําไมบริษัทรถยนต์พลังงานใหม่และซัพพลายเออร์ห่วงโซ่อุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกาและยุโรปจึงพากันไปที่ประเทศจีนเพื่อวางผัง

จีนมีประชากร 1,400 ล้านคน และกลุ่มรายได้ปานกลางมีกว่า 400 ล้านคน เป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศการค้าสินค้าอันดับ 1 ของโลก การขยายความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการของผู้บริโภคแบบใหม่ สําหรับประเทศจีน นี่คือแหล่งที่มาของแรงผลักดันในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของชาติ สําหรับโลก ตลาดผู้บริโภคแบบใหม่ของจีนที่คึกคัก หมายถึงโอกาสทางธุรกิจที่ไม่มีที่สิ้นสุด （Yim/kt/cui）