วันที่ 15 เมษายน ศูนย์จัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินด้านไวรัสคอมพิวเตอร์แห่งชาติจีน ห้องปฏิบัติการวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์แห่งชาติจีนและกลุ่มบริษัทความมั่นคงทางดิจิทัล 360 ของจีน ได้ร่วมกันประกาศรายงานพิเศษ เพื่อเปิดโปงเหตุการณ์ที่หลายหน่วยงานของสหรัฐฯ ร่วมดำเนินปฏิบัติการ "ไต้ฝุ่นโวลต์" โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกุข่าวว่าเป็น “ภัยคุกคามการโจมตีทางไซเบอร์ของจีน” เพื่อปฏิบัติตามมาตราข้อ 702 หรือ “ญัติติเฝ้าระวังข่าวกรองต่างประเทศ ” อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการควบคุมตรวจสอบทางไซเบอร์ต่อต่างประเทศของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ

สถานีโทรทัศน์ CGTN ของไชน่ามีเดียกรุ๊ปได้ทำการสำรวจมติประชาชนต่อชาวเน็ตทั่วโลก ผู้ให้สัมภาษณ์ 91.7% แสดงความเห็นว่าถ้าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการตรวจสอบควบคุมที่มิชอบด้วยกฎหมายและการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะทำให้เสียชื่อเสียงระหว่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ และจะทำให้สหรัฐฯ สูญเสียความไว้วางใจจากทั่วโลก

รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2023 จนถึงปัจจุบัน 1 ปีที่ผ่านมา กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่เบื้องหลัง ได้ก่อการโจมตีทางไซเบอร์ต่อจีนจำนวนกว่า 45 ล้านครั้ง ระหว่างการสำรวจมติประชาชน ผู้ตอบแบบสอบถาม 92.8% เห็นว่าสหรัฐฯ ถือความเหนือกว่าทางเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการต้องการเป็นใหญ่ในโลก ผู้ตอบแบบสอบถาม 95.7% ประณามว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ใช้ “สองมาตรฐาน” ในปัญหาความมั่นคงแห่งชาติ และเห็นว่านี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สหรัฐฯ ต้องการครองโลก  และผู้ตอบแบบสอบถาม 95.7% ประณามการกระทำที่เลวร้ายของสหรัฐฯ ที่ชูธง “ความมั่นคงแห่งชาติ” ไปกดขี่ประเทศอื่นๆ

สถิติดังกล่าวมาจากการสำรวจประชามติ 2 ครั้งที่จัดขึ้นโดยแพลตฟอร์ม 5 ภาษาคืออังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส อาหรับและรัสเซียของ CGTN มีชาวเน็ตจำนวนกว่า 86,000 คนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น