ในเวลาที่สาธารณรัฐประชาชนจีนก่อตั้งขึ้นใหม่ๆ มีสำนักงานบริการไปรษณีย์แค่ 26,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่และเมืองขนาดกลาง การส่งจดหมาย หรือพัสดุมักจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์

เวลาผ่านมา 75 ปี บริการจัดส่งด่วนของจีนได้เติบโตอย่างมากโดยมีหน่วยงานการตลาดที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์มากกว่า 6 ล้านราย และมีการสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศและเชื่อมโยงโลกเข้าด้วยกัน ปริมาณการจัดส่งด่วนในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 9,200 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2013 มาเป็น 132,000 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2023 เพิ่มขึ้นมากกว่า 13 เท่า และยังคงครองอันดับ 1 ในโลก

ปัจจุบันมีจุดให้บริการจัดส่งด่วนหรือไปรษณีย์ทั่วไปจำนวน 468,000 แห่งทั่วประเทศจีน โดยอัตราความครอบคลุมของบริการจัดส่งด่วนในเขตชนบทมีกว่า 95%

แค่ชั่วพริบตาก็จะมีพัสดุมากกว่า 5,000 ชิ้นถูกจัดส่ง โดยปริมาณการจัดส่งด่วนมากว่า 440 ล้านชิ้นต่อวัน ศูนย์จัดส่งด่วนขนาดใหญ่ภายในประเทศเกิน 90% ใช้ระบบอัตโนมัติ และระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะประกันให้สามารถจัดส่งด่วนมากกว่า 80% ได้ถึงผู้รับภายใน 3 วัน

ปริมาณพัสดุที่จีนจัดส่งได้ทั้งปีในปี 1949 สามารถทำได้ภายใน 10 นาทีในปัจจุบัน โลจิสติกส์ส่งด่วนกำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนอย่างไม่เคยมีมาก่อนทำให้โลกทั้งใบอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

คุณปู่เฉิง เหวินเซน วัย 90 ปี เป็นอดีตพนักงานไปรษณีย์ เล่าให้ฟังว่าในช่วงทศวรรษ 1950 เขาต้องปั่นจักรยานที่มีกระเป๋าแขวนอยู่ด้านหน้า 1 ใบ และกระเป๋าอยู่ที่ด้านหลังอีก 2 ใบ ชาวบ้านทั่วไปอาศัยอยู่ในตรอกซอกซอย ทุกครั้งที่เขาจอดรถและตะโกนว่า "หนังสือพิมพ์มาแล้ว" ชาวบ้านก็จะพากันออกมารับ

คุณปู่เฉิงยังเล่าด้วยว่าพัสดุที่ชาวบ้านทั่วไปส่งนั้นมีหลากหลายประเภท ของที่นิยมส่งมากที่สุดได้แก่จำพวกธัญญาหาร ผ้า และน้ำมัน บางคนถึงกับส่งยางด้วย บางคนมาส่งซอเอ้อหูก็มี ไปรษณีย์จึงได้จัดตั้งทีมงานซ่อมบำรุงขึ้น เพื่อช่วยทำกล่องไม้พิเศษสำหรับการเก็บซอเอ้อหู

ระหว่างปี 1949-1978 ความยาวของเส้นทางไปรษณีย์ในจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่า โดยเส้นทางไปรษณีย์ในเขตชนบทและเขตชายแดนก็ขยายขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

คุณซาง หนันไฉ เป็นพนักงานประจำหมู่บ้านเชิ่งกั่น จังหวัดนู่เจียง มณฑลหยุนหนันของจีน  เขาไปทำงานอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปี 1988 พอเริ่มทำงานถึงรู้ว่าการส่งจดหมายในเขตภูเขายากมากอย่างไม่คาดคิดมาก่อน

เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าสมัยนั้นเวลาส่งจดหมายไปยังหมู่บ้าน ต้องเดินทาง 380 กิโลเมตร ใช้เวลา 6 วัน ต้องปีนภูเขาสูง 3,780 เมตร หมู่บ้านบางแห่งดูใกล้เหมือนเพียงสองร้อยเมตรแต่ต้องใช้เวลาเดินเท้าทั้งวัน เพราะเขาต้องปีนขึ้น-ลงเขาลูกแล้วลูกเล่า ระหว่างทางจะได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าของตัวเองและเสียงลมเท่านั้น

คุณต่าปี้เป็นครูสอนในโรงเรียนหมู่บ้านเชิ่งกั่นเมื่อ 22 ปีก่อน เขาได้รับหนังสือแจ้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจากคุณซาง หนันไฉ เขาจำได้ชัดเจนว่าวันนั้นฝนตกหนัก คุณซาง หนันไฉเปียกทั้งตัวและเอาจดหมายออกมาจากกระเป๋าซึ่งก็เป็นครั้งแรกในชีวิตของคุณต่าปี้ ที่ได้รับจดหมายจากข้างนอก

จีนมีพื้นที่กว้างใหญ่จึงมีพื้นที่ห่างไกลพื้นที่ขนาดใหญ่ คุณซาง หนันไฉ บอกว่าไม่ว่าจะไกลหรือยากขนาดไหนทุกที่ที่มีธงชาติจีนทางไปรษณีย์ล้วนย่อมจะส่งถึง

เมื่อปี 2014 กรมการไปรษณีย์จีนได้เริ่มโครงการส่งพัสดุด่วนถึงเขตชนบท เมื่อปี 2019 หมู่บ้านที่ได้จดทะเบียนทุกแห่งของจีน ได้ถูกรวบรวมให้อยู่ในเครือข่ายไปรษณีโดยตรง เมื่อปี 2020 กรมการไปรษณีย์จีนออกหนังสือแจ้งเกี่ยวกับการจัดหมู่บ้านสาธิตด้านการรับของส่งด่วน และจนถึงปลายปี 2022 สามารถเข้าถึงหมู่บ้าน 3,461 แห่งทั่วประเทศจีน

ปัจจุบันคนจีนทุกคนรู้ถึงความรวดเร็วและความสะดวกด้านการขนส่ง องุ่นในเขตซินเจียงที่ยังอยู่บนกิ่งตอนเช้า ตอนบ่ายก็อยู่ระหว่างทางส่งไปทั่วประเทศจีนแล้ว และสามารถส่งถึงคาซัคสถานได้อีกด้วยถ้าอยากรู้ว่าส่งถึงที่ไหนแล้ว ก็สามารถเช็คได้จากมือถือตลอดเวลา พอตื่นมาเช้าวันที่ 2 ก็ส่งถึงผู้สั่งซื้อแล้ว

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ปี 2024 เส้นทางระหว่างทวีปที่ดำเนินการโดยไปรษณีย์สายแรกได้เปิดให้บริการโดยจะบินระหว่างเมืองหนานจิงของจีนกับลักเซมเบิร์ก พัสดุที่ขนส่งด้วยสายการบินไชน่าโพสต์แอร์ไลน์บินจากหนานจิงไปยังลักเซมเบิร์ก จากนั้นจะถูกส่งไปยัง 36 ประเทศและภูมิภาคโดยรอบในทันที （Bo/Ldan）