กรุงปักกิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและสีแดง นายซือ เลี่ยง ผู้สืบทอดฝีมือวาดภาพบนใบไม้ของจีนก็จะสะพายกระเป๋าเป้ เดินไปตามถนนและตรอกซอกซอยในกรุงปักกิ่งเพื่อค้นหาใบไม้ที่เหมาะสม

นายซือ เลี่ยง เติบโตในกรุงปักกิ่งและได้รับอิทธิพลจากครอบครัว โดยเขาติดตามคุณปู่และคุณพ่อเพื่อเรียนรู้การวาดภาพบนใบไม้ตั้งแต่อายุยังน้อย เขากล่าวว่าภาพวาดบนใบไม้เป็นรูปแบบศิลปะที่โรแมนติกมากเหมือนการให้ชีวิตใหม่กับใบไม้ร่วง

ภาพวาดบนใบไม้ของจีนมีอายุมากกว่า 3,000 ปี เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีน คุณภาพของใบไม้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวาดภาพ จากการเลือกใบ การตากแห้ง การป้องกันโรคราน้ำค้าง จนถึงการป้องกันการแตกร้าว ... ทุกขั้นตอนต่างพลาดไม่ได้ บางทียังต้องทิ้งใบไว้ 1-2 ปีเพื่อดูว่าสภาพใบไม้มั่นคงพอหรือไม่ ก่อนที่จะสามารถใช้งานได้

ภาพวาดใบไม้แต่ละใบต้องการใช้เวลาวาดค่อนข้างนาน โดยนายซือ เลี่ยง กล่าวว่าเขาเคยใช้เวลาครึ่งปีเพื่อวาดภาพใบไม้ใบเดียว

นายซือ เลี่ยงแนะนําว่าภาพวาดใบไม้ของจีนยุคแรกๆ จํากัดเฉพาะหัวข้อทางพุทธศาสนาเท่านั้น ใบไม้ที่ใช้ในการวาดภาพก็จะเลือกเฉพาะใบโพธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สําคัญของวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาเท่านั้น เพื่อให้ภาพวาดใบไม้แบบดั้งเดิมของจีนมีสีสันใหม่ขึ้น นายซือ เลี่ยง ได้ขยายประเภทของใบในการวาด โดยเพิ่มใบแปะก๊วย ใบขี้ผึ้งขาว ใบฮอลลี่ ฯลฯ และเพิ่มหัวข้อการวาดด้วย เขาบอกว่า "ผลงานของผมมีทั้งบุคคล ดอกไม้พร้อมนก สัตว์ สถาปัตยกรรม ภูเขาและแม่น้ำด้วย แสดงให้เห็นถึงทิวทัศน์ธรรมชาติหลากหลายประเภทและสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและความมีชีวิตชีวาของชาวจีน"

เพื่อสืบทอดและส่งเสริมวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนได้ดียิ่งขึ้น นายซือ เลี่ยง ยังสอนวิธีการวาดตามโรงเรียนและเขตชุมชนต่างๆ อีกด้วย เขาเชื่อว่ามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้นั้นไม่ควรอยู่แต่บนที่สูง แต่ต้องมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับชีวิตของเราทุกคน

เมื่อเร็วๆ นี้ ผลงานภาพวาดใบไม้ที่ร่วมกันวาดโดยนายซือ เลี่ยง และ เด็กซือ เจียเย่ว์ ซึ่งเป็นลูกสาวของเขา ได้เปิดตัวในงาน CIFTIS 2024

ซือ เจียเย่ว์ อายุ 12 ปี เป็นผู้สืบทอดรุ่นที่ 4 ของภาพวาดใบไม้จีน เธอเรียนภาพวาดใบไม้กับคุณพ่อตั้งแต่เด็ก จินตนาการทําให้สไตล์ภาพวาดใบไม้ของเธอมีชีวิตชีวาและสนุกยิ่งขึ้นใบไม้เล็กๆ เหมือนมีชีวิตใหม่ในมือของเธอ

ซือ เจียเย่ว์ กล่าวว่า "ฉันหวังว่า จะใช้พู่กันพรรณนาบรรดาโบราณวัตถุจีนที่ปัจจุบันอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสได้รู้ถึงรูปลักษณ์และคุณค่าทางวัฒนธรรมของของโบราณวัตถุเหล่านี้" （Bo/Ldan）