ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  กีฬาขี่ม้าได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่เยาวชนของจีน  รายงานเกี่ยวกับธุรกิจการขี่ม้าของจีนปี 2024" ที่เผยแพร่โดยนิตยสารนักขี่ม้า และ Equestrian Online ระบุว่า  ปัจจุบัน  จีนมีสโมสรขี่ม้าจำนวน 2,815 แห่ง ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่มีอายุ 7-18 ปี ผลสํารวจแสดงว่า  สโมสรแต่ละแห่งมีเจ้าของม้าเฉลี่ย 5-7 คน โดยเจ้าของม้า 2 ใน 3 ของทั้งประเทศ มีม้าในปกครองคนละไม่เกิน 5 ตัว ที่มีมากกว่า 10 ตัวขึ้นไป คิดเป็น 1 ใน 5

ทั้งนี้ ในสายตาของวัยรุ่นจีน  กีฬาขี่ม้าไม่ได้เป็นเพียงกีฬาอีกต่อไป แต่เป็นวิถีชีวิต นางสาวกัว จื่อเย่ จากสโมสรนักขี่ม้าแข่งอาชีพจวิ้นเหอซิง เมืองหนานชาง เมืองเอกมณฑลเจียงซี ภาคกลางของจีนบอกว่า เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกประหม่า  เธอก็จะไปขี่ม้าเพื่อคลายความวิตกกังวล  ตามปกติ  เธอจะไปขี่ม้าสัปดาห์ละครั้ง เพื่อฝึกสเต็ป  การเต้นรําพื้นราบ  ข้ามสิ่งกีดขวาง ฯลฯ ความสุขของการขี่ม้าไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการควบม้าในสนามแข่งเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการสื่อสารกับม้าและรับการรักษาจากม้าด้วย

นางกาเวล เอสเตอร์ รีเบกา  โค้ชขี่ม้าจากฮังการีระบุว่าลูกศิษย์ทุกคนรักการขี่ม้ามาก ในระหว่างการสอน  ลูกศิษย์ของเธอเข้ากับผู้สอนและม้าได้เป็นอย่างดี และสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะขี่ม้าของลูกศิษย์  หลังจากคุ้นเคยกับม้าแล้ว นักขี่ม้าก็สามารถแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ที่สง่างาม รวดเร็ว และกล้าหาญในสนามแข่งม้าได้

ลูกศิษย์ของโค้ชกาเวล มีอยู่จำนวนหนึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถม  การขี่ม้าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวก

เขาตั้งแต่เด็ก นางหวง เย่าหยาง จากเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกมณฑลหูเป่ย ลูกสาวของเธอเริ่มฝึกขี่ม้าตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และยังคงไปฝึกขี่ม้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เธอเห็นว่า เด็กที่เรียนฝึกขี่ม้า ส่วนใหญ่ร่าเริงและเข้ากับคนง่าย เธอบอกว่านิสัยใจคอของลูกสาวของเธอก็เกิดการเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากฝึกการขี่ม้า

นายเจ้า จี้อัน นายกสมาคมขี่ม้ามณฑลหูเป่ย ระบุว่า  กีฬาขี่ม้าต้องการให้คนกับม้าสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด โดยจะทดสอบความสามารถรอบด้านของนักขี่ม้า ซึ่งเมื่อพวกเขาสวมเครื่องแบบครบแล้วจะยิ่งดูสง่างามมาก（YIM/ZHOU）