เมืองซาราโกซ่าที่สร้างขึ้นในสมัยโรมันโบราณ มีตำแหน่งภูมิศาสตร์ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เคยเป็นสะพานเชื่อมคาบสมุทรไอบีเรียกับภายนอก แม่น้ำเอโบรที่เป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมสเปนไหลผ่านเมืองนี้ กล่าวได้ว่า เมืองซาราโกซ่าเป็นเมืองน้ำ จากการที่เมืองซาราโกซ่าได้จัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โปแสดงให้เห็นว่าน้ำมีความหมายสำคัญกับเมืองซาราโกซ่าและทั่วโลก โดยมี 104 ประเทศและ 3 องค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โปซาราโกซ่า หอประเทศต่างๆ ที่ใช้นิวไฮเทคและทันสมัยจัดแสดงกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมกว่า 1,000 รอบ มีนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคนเข้าชมงานที่จัดเป็นเวลา 3 เดือน จนถึงปัจจุบัน นางพิลาร์ บาร์เบด เจ้าหน้าที่เคยทำงานในงานเวิลด์ เอ็กซ์โปซาราโกซ่ายังตื่นเต้นอยู่เมื่อหวนคิดถึงงานเวิลด์ เอ็กซ์โปครั้งนั้น เธอกล่าวว่า

 

งานเวิลด์ เอ็กซ์โปซาราโกซ่าทำให้ดิฉันประทับใจมาก การจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โปมีความหมายสำคัญกับเมืองซาราโกซ่า โดยปรับปรุงสภาพการจราจร เพิ่มสายรถเมล์ รถไฟและสนามบินหลายสาย ดิฉันเห็นว่านี่สำคัญมาก

 

ความจริง เมืองซาราโกซ่าแม้ว่าเป็นเมืองเอกและศูนย์กลางทางการเมืองและเศรษฐกิจของแคว้นอาร์กอน แต่ก่อนจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในและต่างประเทศ และไม่ได้เป็นเมืองใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่สมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่หลังจากจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โปซาราโกซ่าด้วยความสำเร็จ ทำให้ส่งเสริมกระบวนการสู่ความทันสมัยของเมืองซาราโกซ่า รัฐบาลสเปนได้ลงทุนบูรณะซ่อมแซมและตกแต่งสองฝั่งแม่น้ำเอโบร และก่อสร้างศูนย์เวิลด์ เอ็กซ์โปซาราโกซ่าบนพื้นที่ 25 เฮกตาร์และสวนน้ำที่มีพื้นที่ 120 เฮกตาร์ในที่ดินรกร้างตอนปลายแม่น้ำเอโบร หลังจากปิดงานเวิลด์ เอ็กซ์โปซาราโกซ่า บริษัทเอ็กซ์โป แอมพริซาริอาร์ ซาราโกซ่ารับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการหอต่างๆ นายริคาร์โด มาร์ติน โฆษกบริษัทฯกล่าวว่า

 

หลังจากปิดงานเวิลด์ เอ็กซ์โปซาราโกซ่า เราได้สรุปประสบการณ์และเข้าใจวางแผนบริหารจัดการหอ งานเวิลด์ เอ็กซ์ไม่ใช่งานที่จัดเพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่จะเป็นโครงการที่ยั่งยืน ดังนั้น เราจึงเตรียมพร้อมตั้งแต่ต้น ตั้งบริษัทเฉพาะเพื่อรับผิดชอบบริหารจัดการหอต่างๆหลังงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ได้ปรับปรุงหอต่างๆ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต