วันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้จัดการเลือกตั้งทั่วประเทศและการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จัดขึ้นทุก 6 ปี เช้าตรู่วันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการเลือกตั้งของฟิลิปปินส์ประกาศผลการนับคะแนนล่าสุดปรากฏว่า นายเบนิกโน อาคิโน สมาชิกพรรคเสรีนิยม ได้ัคะแนนเสียง 11.92 ล้านคะแนน มากกว่านายโจเซฟ เอสตราด้า อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ 4.38 ล้านคะแนน นายเบนิกโน อาคิโนมีชัยอย่างแน่นอน คณะกรรมการเลือกตั้งยังได้ประกาศสถิติปรากฏว่า การเลือกตั้งครั้งน้ี มีผู้ไปใช้สิทธิ์กว่า 80%

นายเบนิกโน อาคิโนอายุ 50 ปีเกิดในครอบครัวนักการเมือง เป็นบุตรนางโคราซอน อาคิโนอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ผู้ซึ่งได้ัรับการยอมรับว่าเป็นผู้ส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตยในฟิลิปินส์ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2009 นางโคราซอน อาคิโนป่วยหนักและถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ประชาชนฟิลิปปินส์พากันเรียกร้องให้นายเบนิกโน อาคิโนลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไป สืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองของคผู้เป็นแม่ สร้างรัฐบาลที่โปร่งใส บรรดาผู้อาวุโสและหัวหน้าพรรคเสรีนิยมก็พากันเชิญชวนให้เขาลงสมัครับเลือกตั้งทั่วไป นายเบนิกโน อาคิโนได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว จึงประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ทางการเมืองของฟิลิปปินส์

นักวิเคราะห์เห็นว่า สาเหตุที่นายเบนิกโน อาคิโนสามารถเอาชนะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ประการแรกคือประชาชนฟิลิิปปินส์ยังคงคิดถึงนางโคราซอน อาคิโนอยู่ ภูมิหลังทางครอบครัวได้สร้างฐานเสียงที่ดีแก่เขา คุณพ่อของนายเบนิกโน อาคิโน เคยดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกและเลขาพรรคเสรีนิยมฟิลิปปินส์ เมื่อปี 1983 เขาเตรียมที่จะร่วมมือกับพรรคฝ่ายค้านอื่น ๆ ลงเลือกตั้งทั่วไปในฟิลิปปินส์ แต่ถูกรอบสังหารเสียชีวิต หลังจากนั้น นางโคราซอน อาคิโนได้ขึ้นเวทีการเมือง เมื่อปี 1986 เธอได้กลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของฟิลิิปปินส์และประเทศเอเซีย ขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นางโคราซอน อาคิโนได้รักษาภาพลักษณ์ที่สุจริตและเที่ยงตรงมาโดยตลอด จึงได้รับการสนับสนุนจากประชาชนฟิลิปปินส์อย่างกว้างขวาง เธอยังได้ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในด้านการเมือง เศรษฐกิจและการทหาร เป็นต้น ปรับปรุงสถานการณ์ภายในประเทศให้ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อนางโคราซอน อาคิโนป่วยและถึงแก่อสัญกรรม ประชาชนฟิลิปปินส์ต่างรู้สึกเสียใจ และฝากความหวังไว้กับนายเบนิกโน อาคิโนลูกชายคนเดียวของเธอ

สาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือ ประชาชนฟิลิปปินส์โดยทั่วไปหวังว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ แม้ว่า ตั้งแต่ปลายปี 2009 เศรษฐกิจฟิลิปปินส์เริ่มมีแนวโน้มเติบโตขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อก็สูงขึ้นเช่นกัน ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปีนี้ ก็ทำให้ภาคการเกษตรประสบความเสียหายอย่างใหญ่หลวง นอกจากนั้น สภาพการทุจริตคอรัปชั่นนับวันร้ายแรงยิ่งขึ้น และถูกประณามจากประชาชนอย่างมาก ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ในการสำรวจการทุจริตคอรัปชั่นทั่วโลก ฟิลิปปินส์ติดอันดับต้น ๆ เสมอ นายเบนิกโน อาคิโนเห็นว่า การทุจริตคอรัปชั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความยากจน และทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล จึงรับปากไว้ว่า ถ้าได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี จะทุ่มกำลังปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ขจัดความยากจน พัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมการมีงานทำ ยกระดับด้านการศึกษาและการรักษาพยาบาลให้สูงขึ้น เห็นได้ว่า เค้าโครงการเลือกตั้งของเขาสอดคล้องกับความรปารถนาของประชาชที่ต้องการขจัดการทุจริตคอรัปชั่นและปรับปรุงเศรษฐกิจให้ดีขึ้น