ช่วงนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเป็นประเด็นร้อนระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นักการเมืองของสองประเทศได้ถกเถียงในประเด็นควรจะเพิ่มค่าเงินหยวนหรือไม่ ผู้ประกอบการส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศจีนมีกว่า 1 แสนราย พวกเขาได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะการเพิ่มค่าเงินหยวนอย่างรวดเร็วไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกที่มีกำไรน้อยมากอยู่แล้วเท่านั้น หากยังจะทำให้แรงงานนับหมื่นนับแสนคนที่เพิ่งพ้นจากภาวะวิกฤตการเงินโลกต้องเผชิญกับปัญหาว่างงานอีก

จีนเป็นประเทศส่งออกสำคัญของโลก ทั่วประเทศมีบริษัทส่งออกกว่า 2 แสนราย ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ถ้าเพิ่มค่าเงินหยวนอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบก่อนใครอื่นคือ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของจีนอย่างแน่นอน เพราะว่าวิสาหกิจเหล่านี้มีกำไรน้อยมากอยู่แล้ว และราคาสินค้ามีความได้เปรียบไม่มาก

นางหวาง อีเกิ่น ผู้จัดการโรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งหนึ่งในมณฑลฮกเกี้ยน ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนแสดงความเป็นห่วงว่า การเพิ่มค่าเงินหยวนจะทำให้กำไรของโรงงานลดลงมาก และจะสูญเสียความได้เปรียบด้านราคาที่เคยมีอยู่ เธอกล่าวว่า

"การเพิ่มค่าเงินหยวนจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกของเราอย่างมาก ก่อนหน้านี้ เนื่องจากราคายางรถของเราถูกกว่าคู่แข่งในประเทศบราซิล อิหร่าน และประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ นักธุรกิจจากประเทศเหล่านี้จึงมาสั่งซื้อยางรถของเรา ถ้าเพิ่มค่าเงินหยวน ราคายางรถของเราก็จะไม่ต่ำกว่าประเทศอื่น เมื่อเป็นเช่นนี้ ลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องมาซื้อของเราต่อไป "

นายหลีเฉิง ผู้จัดการบริษัทส่งออกเครื่องจักร มณฑลกวางตุ้งกล่าวว่า ต้นปีนี้ บริษัทได้เผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนการจ้างงานจึงสูงขึ้นมาก ถ้าเพิ่มค่าเงินหยวนอีก ต้นทุนการประกอบธุรกิจจะสูงมาก เขายังกล่าวว่า

"เรารู้สึกเป็นห่วงมากที่จะเพิ่มค่าเงินหยวน เพราะว่า เป็นการสร้างแรงกดดันต่อวิสาหกิจส่งออกทั่วประเทศ ถ้าวิสาหกิจส่งออกมีต้นทุนสูงมากจนไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ก็ต้องปิด แล้วผลที่ตามมาก็คือ แรงงานจำนวนมากต้องสูญเสียโอกาสทำงาน ดังนั้น ทั้งวิสาหกิจและแรงงานจะต้องรับแรงกดดันและผลกระทบจากการเพิ่มค่าเงินหยวน "

ระหว่างงานแสดงสินค้ากวางโจวครั้งที่ 107 ที่สิ้นสุดลงเมื่อไม่นานมานี้ ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการส่งออกสิ่งทอหลายๆ รายมีความมั่นใจว่า ใบสั่งในครึ่งหลังปี 2010 มีมากพอสมควร แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังกังวลเรื่องเพิ่มค่าเงินหยวน นางสาวหลิน ผู้บริหารบริษัทผลิตเสื้อผ้าหงซิงในเมืองเซินเจิ้นให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ถึงแม้ว่าบริษัทเราได้รับใบสั่งมากพอสมควร แต่การเพิ่มค่าเงินหยวนจะสร้างแรงกดดันให้กับบริษัทอย่างมาก ด้วยสาเหตุนี้ เราจึงต้องพยายามลดต้นทุนให้ต่ำ เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันที่อาจเกิดขึ้น เธอยังกล่าวว่า

"ขณะนี้ เราต้องลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจอย่างที่สุด เพราะว่า ค่าแรงแพงขึ้น มิหนำซ้ำยังมีความเป็นได้ที่จะมีการเพิ่มค่าเงินหยวนอีก "