นายจาง ลี่จวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจีนแถลงที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนว่า ปี 2009 จีนประสบผลสำเร็จในการลดการปล่อยมลพิษถึงขั้นดีกว่าการคาดหมายอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปี 2005 โดยปริมาณซีโอดีในน้ำเสีย หรือ ปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่นทางเคมีที่เกิดขึ้นในทั่วประเทศลดลงร้อยละ 9.66 ขณะที่ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาทั่วประเทศลดลงร้อยละ 13.14 นายจาง ลี่จวินระบุว่า จะใช้มาตรการต่างๆ เช่น เพิ่มความเข้มงวดในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มการตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเร่งปรับเปลี่ยนแบบแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น

ในวันเดียวกันที่กรุงปักกิ่ง มีการประกาศ "แถลงการณ์ว่าด้วยภาวะแวดล้อมของจีนประจำปี 2009" โดยนายจาง ลี่จวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจีนแถลงว่า

"การลดปริมาณการปล่อยมลพิษในปีที่แล้วประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดและดีเกินคาดหมาย กล่าวคือ มีการเพิ่มขีดความสามารถในการบำบัดน้ำเสียวันละ 13.30 ล้านตัน เพิ่มการติดตั้งเครื่องขจัดซัลเฟอร์จากการเผาถ่านหิน 102 ล้านกิโลวัตต์ ฯลฯ"

นายจาง ลี่จวินกล่าวว่า ในรอบปี 2009 จีนยังได้ดำเนินโครงการสำรวจแหล่งมลพิษทั่วประเทศเป็นครั้งแรก มีผลงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลการวิจัยยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อมทางมหภาค ซึ่งเป็นการวางรากฐานอันแข็งแกร่งสำหรับการยกร่างแผนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระยะ 5 ปีต่อไป

"ปีที่แล้ว โครงการสำรวจแหล่งมลพิษทั่วประเทศดำเนินการแล้วเสร็จอย่างราบรื่น โดยมีการสำรวจกลุ่มเป้าหมายกว่า 5.92 ล้านรายในประเภทใหญ่ๆ 4 ประเภท ได้แก่ แหล่งมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม แหล่งมลพิษจากภาคการเกษตร แหล่งมลพิษจากการดำเนินชีวิตประจำวัน และโรงบำบัดมลพิษแบบรวมศูนย์ จนได้รับรู้สภาพโดยสังเขปของมลพิษจากแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศ"

ปีนี้เป็นปีสุดท้ายในการปฏิบัติตามแผนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 11 (ปี 2006-2010) ของจีน ตามแผนพัฒนาฯ ฉบับดังกล่าว จีนต้องลดปริมาณการปล่อยมลพิษชนิดที่เป็นภัยร้ายแรงให้น้อยลงร้อยละ 10 ตามเป้าที่กำหนดไว้ภายในปลายปีนี้ นายจาง ลี่จวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวต่ออีกว่า

"เราต้องเอาชนะในการลดปริมาณการปล่อยมลพิษให้ได้ โดยพยายามทำให้เกินเป้าที่กำหนดไว้ ด้วยการใช้มาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างมาตรการให้สมบูรณ์ขึ้น เร่งปรับเปลี่ยนแบบแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น มุ่งตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มการกำกับดูแลกรณีฉุกเฉินและความมั่นคงทางนิวเคลียร์ มุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงและเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน เช่น มลพิษจากโลหะหนัก เป็นต้น"