จีนชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
 การเผยแพร่:2010-11-30 16:40:49   ดูความถี่:0 แหล่ง:cri
   ปีนี้ จีนดำเนินนโยบายลดการปล่อยก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์โดยไม่นำพาต่อการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ปีนี้ จีนดำเนินนโยบายลดการปล่อยก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์โดยไม่นำพาต่อการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในที่ประชุมประจำปีดาวอสฤดูร้อนครั้งที่ 4 ณ นครเทียนจินของจีน นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์ที่กำหนดไว้ในแผนการพัฒนาประเทศ 5 ปีฉบับที่ 11 รัฐบาลจีนได้กำหนดมาตรการสั่งปิดอุตสาหกรรมที่สิ้นเปลืองพลังงานในครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินขนาดย่อม โรงงานผลิตเหล็กและเหล็กกล้าขนาดย่อม และโรงงานปูนซีแมนต์ขนาดย่อม เป็นต้น และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จีนไม่นำพาต่อการชะลอการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี

ตามข้อมูลจากกรมสถิติแห่งชาติจีนพบว่า สามไตรมาสแรกปีนี้ เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นร้อยละ 11.9 ร้อยละ 10.3 และร้อยละ 9.6 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว แน่น่อน การที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงนั้น มีทั้งปัจจัยด้านจำนวนเชิงการนับ (cardinal number ) และปัจจัยที่รัฐบาลคุมเข้มต่อธุรกิจที่สิ้นเปลืองพลังงานและปล่อยก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก เพื่อให้เศรษฐกิจและสังคมพัฒนาอย่างยั่งยืน

ในช่วง 30 กว่าปีที่จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นสูงกว่าร้อยละ 9 ทุกปี ศักยภาพของประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนต่างมีระดับสูงขึ้น แต่เนื่องจากการลงทุนในด้านพลังงานและทรัพยากรมากเกินไป และการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพต่ำ ซึ่งไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองอย่างมหาศาลแล้ว ยังก่อให้เกิดมลภาวะอย่างร้ายแรงด้วย ตลอดจนขัดขวางการพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมจีนอย่างรุนแรง อีกทั้งกระทบคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย

ต่อการนี้ ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนประเดิมแผนปฏิบัติงานรวมเพื่อประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อเร่งกำจัดโรงไฟฟ้า โรงงานเหล็กและเหล็กกล้า โรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง โรงงานอลูมิเนียม โรงงานโลหะผสมเหล็ก โรงงานแคลเซียมคาร์ไบด์ (Calcium carbide) โรงงานถ่านโค้ก โรงงานถ่านหิน ที่เป็นโรงงานล้าหลัง จนถึงปี 2010 ปริมาณการใช้พลังงานในการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมูลค่า 10,000 หยวนลดลงจากการใช้ถ่านหินมาตรฐาน 1.22 ตันของปี 2005 มาเป็นที่ไม่ถึงหนึ่งตัน ซึ่งลดลงประมาณร้อยละ 20 และปริมาณการใช้น้ำในการสร้างมูลค่าเพิ่มด้านอุตสาหกรรมเฉลี่ยแล้วลดลงร้อยละ 30

เพื่อเป็นการประกันให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลจึงใช้มาตรการด้านเศรษฐกิจ กฎหมาย และการบริหารต่าง ๆ จำนวนมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งรวมถึงการใช้ระบบการตรวจสอบผู้นำทางการท้องถิ่นที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดปล่อยก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์

นอกจากนี้ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว จีนประกาศแผนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรม 10 แขนงใหญ่เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นใหม่ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลได้ออกมติว่าด้วยการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์รูปแบบใหม่อีก โดยจะใช้เวลา 20 ปีเพื่อให้การประหยัดพลังงาน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ และอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์รูปแบบใหม่อื่น ๆ รวม 7 แขนงมีศักยภาพด้านการสร้างสรรค์และมีระดับการพัฒนาที่ก้าวหน้าในโลก

ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น