วันที่ 10 มกราคมปี 2020 เป็นวันเริ่มต้น “ชุนยุ่น” หรือการคมนาคมขนส่งมวลชนในช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่าปีนี้ ทั่วประเทศจะมีผู้โดยสารมากถึง 3,000 ล้านคนครั้ง ในจำนวนนี้ ผู้ใช้บริการรถทัวร์จะมากถึง 2,430 ล้านคนครั้ง ผู้ใช้บริการรถไฟจะมีประมาณ 440 ล้านคนครั้ง ผู้ใช้บริการเครื่องบินจะมี 79 ล้านคนครั้ง ส่วนการขนส่งทางน้ำจะรองรับอีกประมาณ 45 ล้านคนครั้ง
หมายเหตุ : หน่วย “คนครั้ง” หมายความว่า ผู้โดยสารซื้อตั๋วเดินทางครั้งหนึ่ง นับเป็น 1 คนครั้ง
“ชุนยุ่น” ภาษาอังกฤษใช้คำว่า The Spring Festival transport season ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่มีการเดินทางโยกย้ายประชากรจำนวนมหาศาล จนทำให้เกิดแรงกดดันต่อการคมนาคมในช่วงเวลาก่อนและหลังเทศกาลตรุษจีน โดยถือวันตรุษจีนเป็นจุดกึ่งกลาง และนับเวลาก่อนและหลังวันตรุษจีนรวมแล้วประมาณ 40 วัน ซึ่งมักจะเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน จนถึงวันที่ 25 เดือนอ้ายของปีถัดไป คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อให้กระทรวงคมนาคมและกรมการบินพลเรือนวางแผนรองรับการขนส่งผู้โดยสารในทั่วประเทศเป็นพิเศษ จึงมีชื่อเฉพาะว่า “ชุนยุ่น” ซึ่งโดยทั่วไป จะหมายถึงการคมนาคมระหว่างเมืองต่างๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ไม่รวมถึงการเดินทางไปเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เขตบริหารพิเศษมาเก๊า เกาะไต้หวันและต่างประเทศ
คำว่า “ชุนยุ่น” เริ่มใช้ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ประชาชนปี ค.ศ.1980 ซึ่งเวลานั้น เนื่องจากมีการปฏิรูปและเปิดประเทศ ทำให้ผู้คนมีการติดต่อสัญจรไปมา มีโอกาสเดินทางไปต่างมณฑลเพื่อหางานทำและศึกษาต่อมากขึ้น และเริ่มเกิดสภาพมวลชนพากันเดินทางกลับบ้านเกิดก่อนถึงวันตรุษจีน ซึ่งเป็นกระแสการโยกย้ายประชากรจำนวนมหาศาลที่หายากในทั่วโลก รอบ 30 ปีที่ผ่านมา ขบวนทัพ “ชุนยุ่น” ของจีนจากเดิมมีประมาณ 100 ล้านคน เพิ่มขึ้นมาเป็น 3,700 ล้านคนในปี 2015 เท่ากับประชากรแอฟริกา ยุโรป อเมริกาและโอเชียเนียรวมกัน หรือคิดเป็นประชากรจำนวน 3 ใน 7 ของประชากรทั้งโลก (รวมประมาณ 7,000 ล้านคน) จนสร้างสถิติโลกด้านการขนส่งภายในประเทศช่วงระยะเวลาหนึ่ง
เนื่องจากว่าภายในระยะเวลา 40 วันของ “ชุนยุ่น” จะมีคนเดินทางจำนวนมหาศาล รถไฟจีนจะมีภาระหนักที่สุด ทุกปี บริษัทการรถไฟจีนต้องมีแผนรับมือ 3 ฉบับ ได้แก่ แผนพื้นฐาน แผนสำรอง และแผนแก้ปัญหาฉุกเฉิน เพื่อแยกรับมือกับการขนส่งผู้โดยสารในสภาพการณ์ปกติ สภาพที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก และในภาวะที่มีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นแบบเกินความคาดหมาย และเพื่อผ่อนคลายแรงกดดันจากการซื้อขายตั๋ว นอกจากมีระบบซื้อตั๋วแบบใช้ชื่อจริงแล้ว ยังได้สร้างช่องทางจำหน่ายตั๋วขึ้นมาด้วยหลายรูปแบบ เช่น ซื้อตั๋วที่สถานี ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย ซื้อตั๋วแบบออนไลน์ ซื้อตั๋วผ่านโทรศัพท์และซื้อตั๋วผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาซื้อตั๋วยากให้กับผู้ต้องการเดินทาง
อนึ่ง กระทรวงคมนาคมจีนคาดการณ์ว่า ชุนยุ่นปี 2020 จะมีภาพลักษณ์ใหม่เกิดขึ้น เช่น มีคนเดินทางล่วงหน้า มีการประกาศขยายเวลาชุนยุ่นให้ยาวขึ้น และช่วงพีคสุดของการเดินทางจะมีคนมากเป็นพิเศษ เป็นต้น โดยคาดว่าช่วงก่อนวันตรุษจีนจะมีคนเดินทางมากที่สุด อยู่ระหว่างวันที่ 15-23 มกราคม หรือตรงกับวันที่ 21-29 ของเดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติจีน
และช่วงหลังวันตรุษจีน จะมีผู้คนออกเดินทางเป็นจำนวนมากอีกในสองช่วงเวลา คือ ระหว่างวันที่ 26 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ และวันที่ 9-13 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนพากันออกไปท่องเที่ยว และทยอยกันเดินทางกลับไปยังเมืองที่เรียนหนังสือหรือทำงานอยู่
จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2019 การรถไฟจีนเสร็จสิ้นการปรับระบบจำหน่ายตั๋ว โดยมี 957 สถานีสามารถดำเนินธุรกิจจำหน่ายตั๋วแบบ E-Ticket หากผู้โดยสารขึ้น-ลงรถไฟที่สถานีที่สามารถใช้ตั๋วแบบดังกล่าวได้ จะมีลู่ทางซื้อตั๋วอย่างน้อย 5 ช่องทาง เช่น จากเว็บไซต์ 12306 ของการรถไฟจีน, แอปพลิเคชั่นขายตั๋วผ่านมือถือ, ช่องจำหน่ายตั๋วที่สถานี, เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ และร้านตัวแทนจำหน่ายตั๋วรถไฟ เป็นต้น
ทั้งนี้ หลังจากซื้อตั๋วแล้ว เวลาจะเข้าสถานีรถไฟ ก็ไม่จำเป็นต้องถือตั๋วกระดาษ ใช้เพียงบัตรประชาชนเท่านั้น ก็สามารถยืนยันฐานะของตนเข้าไปในสถานีและขึ้นรถได้แล้ว และเมื่ออยู่บนขบวนรถไฟแล้ว หากมีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจตั๋ว ก็เพียงยื่นตั๋วกระดาษหรือแสดงแหล่งที่มาที่ตนใช้ซื้อตั๋ว และหากต้องการนำตั๋วไปเบิกกับบริษัท ก็สามารถไปติดต่อขอให้ออกตั๋วรถไฟที่ช่องจำหน่ายหรือตู้ให้บริการได้ ภายในระยะเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันเดินทาง
อนึ่ง ในปี 2020 นี้ เพื่อให้ทุกคนสามารถกลับบ้านเกิดของตนได้ตามความปรารถนา การรถไฟจีนมีการเปิดเส้นทางเดินรถใหม่ ซึ่งให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา เช่น การเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปมณฑลเหอเป่ย จากมณฑลเสฉวนไปมณฑลยูนนาน จากเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสีไปมณฑลกวางตุ้ง จากกรุงปักกิ่งไปมณฑลกวางตุ้ง เป็นต้น ส่วนท่าอากาศยานนานาชาติต้าซิงปักกิ่งที่เพิ่งสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วนั้น ก็จะต้อนรับ “ชุนยุ่น” เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ด้วย ย่อมจะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันการให้บริการของท่าอากาศยานโส่วตูปักกิ่งได้ไม่น้อย
ปัจจุบัน ยังมีคนที่ทำงานในต่างมณฑลบางส่วน เริ่มหาหนทางใหม่ในการอยู่พร้อมหน้ากับสมาชิกครอบครัวช่วงตรุษจีน เช่น ตนเองไม่กลับบ้านเกิด แต่จะซื้อตั๋วให้พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือลูก ให้พวกเขาสวนทางกับการกลับบ้านของคนส่วนใหญ่ ให้เดินทางมายังเมืองที่ตนเองทำงานอยู่แทน เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากันอย่างอบอุ่น และเป็นโอกาสที่พาญาติพี่น้องท่องเที่ยวต่างจังหวัดด้วย สถิติแสดงว่า ปีนี้ อาจมีคนต่างมณฑลประมาณ 30% จะใช้วิธีนี้เพื่ออยู่พร้อมหน้ากับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งนับเป็นวิธีที่ดีที่ไม่ต้องเดินทางเบียดเสียดกับคนกลุ่มใหญ่ และประสบความลำบากในการซื้อตั๋วและเดินทาง (Yim/Ping)
- ทั่วประเทศจีนไว้อาลัยการจากไปของสหายเจียงเจ๋อหมิน
- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดพิธีไว้อาลัยการถึงแก่อสัญกรรมของเจียงเจ๋อหมิน
- ผู้นำและหัวหน้าองค์กรระหว่างประเทศต่างๆร่วมแสดงความเสียใจการถึงแก่อสัญกรรมของเจียงเจ๋อหมิน
- แถลงการณ์คณะกรรมการจัดงานพิธีศพสหายเจียงเจ๋อหมิน ฉบับที่ 2
- รองนายกฯ จีนเน้น ปรับปรุงมาตรการป้องกันควบคุมโรคระบาดให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- เมืองและพื้นที่ 36 แห่งของจีนริเริ่มระบบบำนาญส่วนบุคคล
- FAW Toyota ผลิตรถยนต์คันที่ 10 ล้านในเทียนจิน
- จีนคงความสามารถด้านโลจิสติกส์
- รู้จักสนามกีฬาลูเซล สนามแข่งขันฟุตบอลโลกที่บริษัทสัญชาติจีนร่วมก่อสร้าง
- ภารกิจการขนส่งมนุษย์ของสถานีอวกาศของจีนสร้างสถิติอย่างต่อเนื่อง
วิดีโอยอดนิยม
ช่องแนะนำ
ด้านบน คิดเห็น
- ภารกิจการขนส่งมนุษย์ของสถานีอวกาศของจีนสร้างสถิติอย่างต่อเนื่อง
- แถลงการณ์คณะกรรมการจัดงานพิธีศพสหายเจียงเจ๋อหมิน ฉบับที่ 2
- ทั่วประเทศจีนไว้อาลัยการจากไปของสหายเจียงเจ๋อหมิน
- จีนคงความสามารถด้านโลจิสติกส์
- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดพิธีไว้อาลัยการถึงแก่อสัญกรรมของเจียงเจ๋อหมิน
- เมืองและพื้นที่ 36 แห่งของจีนริเริ่มระบบบำนาญส่วนบุคคล
- FAW Toyota ผลิตรถยนต์คันที่ 10 ล้านในเทียนจิน
- ผู้นำและหัวหน้าองค์กรระหว่างประเทศต่างๆร่วมแสดงความเสียใจการถึงแก่อสัญกรรมของเจียงเจ๋อหมิน
- รองนายกฯ จีนเน้น ปรับปรุงมาตรการป้องกันควบคุมโรคระบาดให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ผลไม้อาเซียนได้รับความนิยมในประเทศจีน