เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายมาริโอ คาโวโล ชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี ซึ่งใช้ชีวิตในจีนเกือบ 20 ปี ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ “มีบางอย่างผิดปกติตรงนี้ทุกคน: เทียบไข้หวัดใหญ่ (H1N1) 2009 กับไวรัสโควิด 2019” ในโซเชียลมีเดีย LinkedIn และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก โดยมีใจความสำคัญดังต่อไปนี้

ปี 2009 สหรัฐฯ เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ (H1N1)  สายพันธุ์ใหม่ รัฐบาลสหรัฐฯ จึงประกาศภาวะฉุกเฉิน ปีเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่าการแพร่ระบาดของไวรัสฯ ในครั้งนั้น ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 60 ล้านคน เสียชีวิต 18,449 คน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลกแย่กว่าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เคยประกาศไว้ สถิติจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ในปี 2012 พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ (H1N1) สายพันธุ์ใหม่ เกือบ 3 แสนคน

ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ที่มีจุดเริ่มต้นจากเมืองอู่อั่น ทางตอนกลางของจีน ประเทศจีนและประชาชนจีนถูกโจมตีเชิงลบ แต่ผมรู้สึกว่าไม่มีเหตุมีผล และขอแสดงความเห็นของตัวเองในหลายประเด็น

ในช่วงการการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่  2009 ในความทรงจำของผม ผมจำไม่ได้ว่ามีการโจมตีสหรัฐฯ จากทั่วโลกหรือไม่ คุณจำได้ไหม? ในความเป็นจริง คุณจำได้ไหมว่า สหรัฐฯ ใช้เวลา 6 เดือนจึงประกาศภาวะฉุกเฉิน เคยมีรัฐบาลใดประกาศห้ามไม่ให้พลเมืองเดินทางออกจากสหรัฐฯ หรือไม่ เคยปิดพรมแดนไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเมืองหรือไม่ คำตอบคือไม่มีเลย

ผมได้ยินการใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลจีนว่า เจตนาปกปิดจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่หากดูจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 สหรัฐฯ กลับอัปเดตจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ 3 ปีให้หลังจากการระบาดของไวรัสฯ และนี่ก็คือแก่นแท้ของการระบาด ไม่ว่าเกิดขึ้นที่ประเทศใด ในระยะแรก ไม่มีกำลังพลที่เพียงพอ ไม่มีชุดทดสอบที่เพียงพอ ก็ไม่มียาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพียงพอ แต่จีนก็ไม่ได้ปกปิดความยากลำบากดังกล่าว เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันทั่วโลก เรื่องนี้ไม่ใช่อุบาย แต่เป็นโศกนาฏกรรมเท่านั้น

ทั่วโลกควรยกย่องสรรเสริญจีนที่รับมือการแพร่ระบาดของไวรัสฯ อย่างแข็งขัน กว้างขวางอย่างไม่เคยมีมาก่อน เมื่อผมมองเห็นมาตรการของจีนบนแผ่นดินจีน ไม่ว่าใช้มาตรฐานใดมาวัด ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ

หากคุณเป็นชาวต่างชาติที่กำลังอยู่ในจีน ยกเว้นคุณอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ข้อเท็จจริงก็คือว่า คุณจะปลอดภัย สงบสุข และเป็นปกติ ขอเพียงตั้งรับอยู่เฉย ๆ ไม่ใช่หนีออกไปตอนนี้ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยไปกว่านี้แล้ว ที่ ๆ ผู้คนอยู่บ้านเกือบทุกคน กักบริเวณเพื่อตนเองและส่วนรวม  นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังทุ่มเงินหลานแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อคุ้มครองสังคม ครอบครัว และประชาชน

รัฐบาลจีนและประชาชนจีนใช้ท่าทีที่สุขุมรอบคอบ และรับมือยับยั้งการระบาดของไวรัสฯ จนเป็นที่น่าจับตามอง

สรุปประเด็นการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19

1.ไวรัสชนิดนี้ ติดเชื้อได้ง่าย แพร่กระจายรวดเร็ว สามารถทำให้เนื้อเยื่อปอดติดเชื้อจนเป็นโรคปอดอักเสบ

2.อัตราการเสียชีวิตของไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ราว 2.5% เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตของไข้หวัดทั่วไปซึ่งอยู่ที่ปีละ 0.1% แล้ว ไวรัสโดวิด-19 ถือว่าสูงกว่าถึง 20 เท่า แต่เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ SARS ที่ 9% และโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ MERS ที่ 37% แล้ว อัตราการเสียชีวิตของไวรัสโควิด-19 ถือว่าต่ำกว่ามาก

3.ประเทศจีนได้ค้นพบ “จีโนม" ของไวรัสโควิด-19 ในเวลาอันสั้น และแบ่งปันรหัสพันธุกรรมของไวรัสชนิดใหม่นี้แก่องค์กรด้านสาธารณสุขและควบคุมโรคระบาดระหว่างประเทศทั่วโลกอย่างรวดเร็ว นักวิจัยทางการแพทย์พบว่า ยาต้านไวรัสที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิผลในการยับยั้งเชื้อไวรัสชนิดนี้

4.เรากำลังตื่นตัว ทั่วประเทศจีนร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านโรคระบาดอย่างเต็มกำลัง รัฐบาลท้องถิ่นระดับมณฑลดำเนินมาตรการควบคุมการจราจร การเดินทาง และการทำงานในระยะเวลาหนึ่ง ประชาชนจีน 14 ล้านคนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ชาวบ้านส่วนใหญ่พักอยู่ที่บ้าน ลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด ทั้งนี้ สังคมโลกชื่นชมการกระทำดังกล่าวของชาวจีน อีกทั้งจีนยังสร้างบรรทัดฐานให้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในการรับมือกับโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต  

5.การเกลียดกลัวชาวต่างชาติต้องหยุดทันที อีกไม่กี่สัปดาห์ ไม่กี่เดือน ไวรัสชนิดนี้จะค่อย ๆ  ลดลงไปจนหมด ฤดูใบไม้ผลิอันเต็มไปด้วยความหวังและความสุขย่อมจะมาถึงในที่สุด (Tim/Cui/Zi)