ตามรายงานล่าสุด ByteDance (ไบท์แดนซ์) เจ้าของแอปฯ TikTok ได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทออราเคิล (Oracle) และวอลมาร์ต (Walmart) อย่างไรก็ตาม ตามเนื้อหาที่เปิดเผยโดยสหรัฐฯ ข้อตกลงฉบับนี้เป็น "สนธิสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกัน" อย่างเห็นได้ชัด เป็นการเข้าครอบครองอย่างใช้กำลังของสหรัฐฯ ภายใต้ร่มธง "ความร่วมมือทางการค้า" ซึ่งาลจีนได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นแล้ว บริษัทจีนจะไม่ยอมจำนนต่อการปราบปรามของพวกเขา

ในความเป็นจริง มาตรการที่ไร้ยางอายในการเข้าควบคุม TikTok ของสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับประชาคมระหว่างประเทศ จากทศวรรษที่ 1980 สหรัฐฯได้กดขี่ Toshiba ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้ Alstom  บริษัทผลิตฝรั่งเศสต้อง "ถูกแยกเป็นส่วนๆ"  จนกระทั่งการกดขี่บริษัทจีนที่รวมถึง Huawei และ TikTok เป็นต้น ได้เหวี่ยงกระบองเข้าใส่บริษัทพันธมิตรจำนวนมาก เพื่อปกป้องความเป็นเจ้าโลกด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของตัวเอง

ต้องเข้าใจว่า การปราบปรามบริษัทที่เฉพาะเจาะจง เช่น TikTok อย่างโหดร้ายของนักการเมืองสหรัฐฯ สาระสำคัญคือ ใช้การกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจที่มีแผนและเป็นระบบ ต่อบริษัทนอกสหรัฐอเมริกาที่เป็นผู้นำในสาขาหนึ่ง

ปัจจุบัน แนวโน้มของการเปิดกว้างและการผสมผสานกำลังก้าวไปข้างหน้า ไม่มีประเทศใดมีอำนาจในการผูกขาดความได้เปรียบในการพัฒนา และยิ่งไม่สามารถทำการใดตามแต่ใจตนเอง กลั่นแกล้งครอบงำทำตนเป็นเจ้าโลก จีนจะไม่ยอมรับข้อตกลงใด ๆ ที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติ ศักดิ์ศรีและการพัฒนาในระยะยาวของบริษัทที่เกี่ยวข้องของจีน ไม่เพียงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของจีนเท่านั้น ยังเพื่อปกป้องสิทธิของประเทศและบริษัทที่ถูกสหรัฐกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจ แผนการปล้น TikTok ของ "โจรสลัดอเมริกัน" ต้องล้มเหลว (Yim/Patt/Zdan)