วันที่ 13 ธันวาคม ซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีน ไปตรวจเยี่ยมชี้นำการดำเนินงานป้องกันควบคุมโควิดในกรุงปักกิ่ง พร้อมถ่ายทอดความห่วงใยใส่ใจของเลขาธิการสี จิ้นผิงที่มีต่อประชาชน เยี่ยมเยือนบุคลากรด้านการแพทย์และเจ้าหน้าที่ในชุมชนที่ทำงานอยู่แนวหน้างานป้องกันการระบาด ตรวจดูการดำเนินงานของโรงพยาบาล ร้านยาและศูนย์บริการสุขอนามัยในชุมชน  รับรู้สภาพการตรวจรับผู้มีไข้  ขั้นตอนการรักษาพยาบาล  การรักษาตามระดับ  การสร้างโรงพยาบาลตามกำหนด และการสำรองยาเวชภัณฑ์ต่างๆ โดยเน้นย้ำว่า  จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของนายสี จิ้นผิงอย่างจริงจัง  ปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และคณะรัฐมนตรีจีน ยึดมั่นในหลักการที่ชีวิตและผลประโยชน์ของประชาชนสำคัญเหนืออื่นใด ปฏิบัติตามข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด เพิ่มกำลังในการรวบรวมและจัดสรรทรัพยากร เปลี่ยนแนวคิดและทิศทางจุดสำคัญของการดำเนินงานจากป้องกันควบคุมสู่การรักษาพยาบาล มีเป้าหมายคือรักษาสุขภาพและป้องกันอาการหนัก เพื่อประกันให้การปรับเปลี่ยนขั้นตอนงานป้องกันควบคุมดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ  ประสานการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน กรุงปักกิ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการหรืออาการเบา ปัจจุบัน ผู้ป่วยอาการสาหัสที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลมี 50 ราย ส่วนใหญ่มีโรคเรื้อรัง  ซุน ชุนหลานยังย้ำว่า  ส่วนกลางพรรคและคณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญอยู่สูงต่อการป้องกันควบคุมโควิดในกรุงปักกิ่ง หน้าที่เร่งด่วนคือสนับสนุนกรุงปักกิ่งเสนอหลักประกันด้านการรักษาพยาบาลและยารักษาโรคให้กับประชาชน ปัจจุบัน ปักกิ่งมีคลินิกตรวจรับผู้ป่วยที่มีไข้ 303 แห่ง  จำต้องลดขั้นตอนให้น้อยลง เพิ่มทรัพยากรการรักษาพยาบาล  เร่งจัดแผนกรักษาผู้ป่วยเป็นไข้ในโรงพยาบาลชั่วคราว  และเพิ่มห้องตรวจโรคและกำลังการแพทย์ในคลินิกผู้ป่วยเป็นไข้ทั้งหมด เพื่อลดแรงกดดันของโรงพยาบาลใหญ่ ลดเวลาการรักษาโรคของผู้ป่วย โดยจะต้องดำเนินการรักษาพยาบาลแบบแบ่งระดับ แสดงบทบาทขององค์กรสุขอนามัยในชุมชนและโรงพยาบาลอินเทอร์เน็ต  ส่วนการดำเนินงานของชุมชนจะต้องเปลี่ยนจากการควบคุมบุคคลเสี่ยง ไปเป็นการให้บริการการรักษาพยาบาล  ดำเนินการสำรวจทางสุขภาพ ส่งยาไปถึงที่บ้าน และให้คำปรึกษาทางจิต จะต้องให้ความสำคัญต่อการป้องกันกลุ่มอ่อนแอ ที่รวมถึงผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง หญิงมีครรภ์หรือจะคลอดบุตร ผู้ป่วยที่ต้องล้างไต เป็นต้น ไม่ว่าผู้ป่วยโควิดหรือผู้ป่วยธรรมดา ทางโรงพยาบาลจะต้องรับและรักษาให้ได้  ปัจจุบันกำลังเร่งผลิตและจำหน่ายยารักษา ซึ่งจะตอบสนองความต้องการได้ กรุงปักกิ่งจะต้องแสดงบทบาทของตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์  ประกันประสิทธิภาพการจัดส่งและอัตราการเข้าถึง  ฝ่ายบริหารงานของกรุงปักกิ่งกำลังเร่งแก้ไขปัญหาการรักษาพยาบาลและซื้อยารักษา ย่อมจะผ่านพ้นช่วงที่เกิดการระบาดสูงได้ด้วยดี (Yim/LR/Cui)