สมเด็จฮุนเซนเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กระชับความสัมพันธ์จีน-กัมพูชา
 การเผยแพร่:2023-02-13 16:51:55   ดูความถี่:0 แหล่ง:CMG

\

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ของกัมพูชาเดินทางเยือนจีนระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา  เป็นการเยือนจีนในโอกาสครบรอบ 65 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและกัมพูชา  โดยนายกฯ ฮุนเซนได้เข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง  หารือถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ในหลายด้าน  

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า ทั้งจีนและกัมพูชาจะร่วมกันพัฒนาใน 6 ด้าน เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือ “เพชร 6 เหลี่ยม” ได้แก่ ด้านการเมือง กำลังการผลิต การเกษตร พลังงาน ความมั่นคง และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ  

โดยจีนจะส่งเสริมการพัฒนา "ระเบียงอุตสาหกรรม" สนับสนุนบริษัทจีนให้ลงทุนและทําธุรกิจในกัมพูชามากขึ้น สร้างเขตสาธิตเศรษฐกิจแบบมัลติฟังก์ชั่นในจังหวัดพระสีหนุ และสนับสนุนกัมพูชาในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง นอกจากนี้  จะส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการเกษตรในการสร้าง “เส้นทางข้าวและปลา (Fish and Rice Corridor) ในกัมพูชาด้วย

ด้านพลังงาน  จีนและกัมพูชาจะร่วมกันพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  โดยจีนจะเพิ่มการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชามากขึ้น

ในด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้มีการฝึกปฏิบัติการพิเศษเพื่อร่วมกันต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้จีนจะยังคงให้ความช่วยเหลือด้านการกวาดล้างทุ่นระเบิดแก่กัมพูชาต่อไป

ในการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ  จีนจะให้ความสําคัญกับการเพิ่มเที่ยวบินตรงกับกัมพูชา  ส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การปกป้องและฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรมของกัมพูชา

ขณะที่  นายกฯ ฮุนเซน ของกัมพูชา ก่าวว่า  กัมพูชาชื่นชมที่จีนสนับสนุนกัมพูชามาโดยตลอดและเห็นด้วยกับการพัฒนากรอบความร่วมมือ "เพชรหกเหลี่ยม" และความร่วมมือในด้านต่างๆ ร่วมกัน และกัมพูชายินดีที่จะสนับสนุนและต้องการมีส่วนร่วมในโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก และข้อริเริ่มด้านความมั่นคงโลกของจีนต่อไป

ในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ของทั้ง 2 ประเทศ  จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา  ในปีค.ศ.2022  ปริมาณการค้ารวมระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 400,000 ล้านบาท  ซึ่งสินค้ามากกว่าร้อยละ 97 ที่ส่งออกไปยังจีนได้รับการยกเว้นภาษีตามข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อต้นปีที่แล้ว  นอกจากนี้ ในฐานะสมาชิกของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ RCEP กัมพูชามีมูลค่าการค้าโดยรวมร้อยละ 60  ของประเทศสมาชิก RCEP ด้วย

ขณะที่จีนได้ลงทุนในเขตเศรษฐกิจที่จังหวัดพระสีหนุของกัมพูชา  มีโรงงานจีน 175 แห่ง  สร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นมากกว่า 30,000 ตําแหน่ง

การหารือกันของผู้นำทั้งสองประเทศในโอกาสนี้  จึงเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างจีนและกัมพูชา  ที่จะมีความร่วมมือในหลายมิติที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาประเทศร่วมกัน เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนของทั้ง 2 ประเทศในอนาคตต่อไป

บทความ : ประวีณมัย  บ่ายคล้อย


ขอแนะนำให้คุณอ่าน

ช่องแนะนำ

ด้านบน คิดเห็น