หวัง หยิ่ง สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 14 เป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำหมู่บ้านสือเจียจื่อ ตำบลมู่โถวเฉิงจื่อ อำเภอเฉาหยาง เมืองเฉาหยาง มณฑลเหลียวหนิง เธอเกิดปี 1992 จบมหาวิทยาลัยปี 2014 แต่เดิมอยากจะเป็นตุลาการ แต่เธอหวนกลับคืนสู่ภูมิลำเนา ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรสมัยใหม่ โปรโมทสินค้าการเกษตรของบ้านเกิดผ่านระบบอี-คอมเมิร์สออนไลน์ ให้เป็นที่รู้จัก

หวัง หยิ่งใช้รูปแบบ “อินเตอร์+ไร่นาเพาะปลูก+การแปรรูป+การจัดจำหน่ายผ่านทางหน้าร้าน” ตั้งแต่แหล่งการผลิตถึงการจัดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร เวลาผ่านไปหลายปี บริษัทของเธอมีการว่าจ้างชาวบ้านและนักศึกษาจบใหม่มาทำงานเป็นประจำกว่า 40 คน ในช่วงฤดูทำนาจะว่าจ้างอีกกว่า 100 คนมาทำงาน

หวัง หยิ่งเป็นแกนนำก่อตั้งสหกรณ์ในหมู่บ้าน สร้างเรือนเพาะปลูกกว่า 30 หลัง เช่าพื้นที่ร่วมกับชาวบ้านปลูกองุ่นและผัก นอกจากนี้ยังชี้แนะชาวบ้านปลูกลูกเดือย (millet) กว่า 1,000 หมู่ ( หรือประมาณ 416 ไร่ )  และข้าวโพดหวานอีกกว่า 1,000 หมู่ ( หรือประมาณ 416 ไร่ ) โดยประสานกับสหกรณ์หมู่บ้านอื่น 13 แห่ง เพื่อวางจำหน่ายธัญญาหาร สตรอเบอร์รี และน้ำส้มสายชู ตลอดจนสร้างโรงงานแปรรูป โกดังรักษาความสด และโกดังแช่แข็ง (coolrooms , freezers) ในหมู่บ้านด้วย

ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละ หวัง หยิ่งสานฝันตัวเองให้เป็นจริงขึ้น และนำพาพี่น้องชาวบ้านสร้างรายได้ด้วย หลังจากได้รับเลือกเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำหมู่บ้านสือเจียจื่อเมื่อปี 2020 แล้ว เธอสรรหาเงินทุนสนับสนุนโครงการตัดถนน โครงการเขื่อนกั้นน้ำ และโครงการติดตั้งไฟจราจรตามถนนสายหลักของหมู่บ้าน ต่อมาในเดือนกันยายนปี 2021 หวัง หยิ่งได้รับการขนานนามว่า “10 อันดับเกษตรกรยอดเยี่ยมแห่งชาติ” ประจำปี 2021 จากกระทรวงเกษตรและเกษตรกร

จากนั้น เมื่อได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หวัง หยิ่งมีภารกิจเพิ่มขึ้น หลายวันก่อน มีผู้พิการคนหนึ่งถามเธอว่าปีนี้มีทางได้เงินอุดหนุนด้านการรักษาพยาบาลมากขึ้นอีกหรือไม่ ขณะที่นักศึกษาจบใหม่ที่ทำงานในบริษัทอี-คอมเมิร์ซในหมู่บ้านขอให้ขึ้นเงินเดือน......มือถือเธอของหวัง หยิ่ง ดังขึ้นตลอดเวลา

ด้วยการสำรวจมาหลายครั้ง หวัง หยิ่งในฐานะ “สมาชิกสภาฯ” มีข้อสรุปว่า การพัฒนาสร้างความเจริญในพื้นที่ชนบท นอกจากควรเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ยิ่งกว่านั้นยังควรสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาจบใหม่มาร่วมพัฒนาสร้างความเจริญในพื้นที่ชนบท ปีนี้เธอจะยื่นเรื่องการสนับสนุนสินค้าเกษตรเข้าเมืองและนักศึกษาจบใหม่กลับไปทำงานในท้องถิ่นเดินเรื่องเข้าสู่สภาฯ

หมู่บ้านสือเจียจื่ออยู่ใกล้ๆ สถานีไน่หลินเกา ตามเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-ฮาร์บิน การเดินทางสู่กรุงปักกิ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง หวัง หยิ่งได้ไอเดียใหม่จากรถไฟความเร็วสูงสายนี้ว่า ปีนี้จะทำโครงการโฮมสเตย์ในหมู่บ้าน ใช้การท่องเที่ยวหนุนความเจริญในหมู่บ้าน “การให้ภูมิลำเนาเป็นบ้านเรือนของชาวบ้านในการสร้างชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุข การให้พื้นที่ชนบทเป็นเวทีของวัยรุ่นเพื่อสานฝันพวกเขาให้เป็นจริง ฉันจะพยายามอย่างไม่ลดละ” หวัง หยิ่งระบุ (Ying/LING/SUN)