วันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา จีนใช้สิทธิ์วีโต้ร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ โดยชี้ว่า ร่างมติดังกล่าวไม่สอดคล้องกับมติของสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง

นายจาง จุน ผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติ ชี้แจงเหตุผลในการลงคะแนนเสียงว่า ร่างมติดังกล่าวไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมติสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง เพราะมีการฝังตรรกะที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับการปะทะกันทางอารยธรรม และเหตุผลในการทำสงครามและการใช้กำลังอาวุธ

นายจาง จุนกล่าวว่า จุดยืนของจีนตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง กฎหมาย มโนธรรม ความเป็นธรรม และเสียงเรียกร้องที่แข็งแกร่งจากประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอาหรับ    ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา  มีร่างมติฉบับหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล และเน้นการคุ้มครองพลเรือน ร่างมติฉบับนั้นได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากสมาชิกส่วนใหญ่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่กลับไม่ได้รับการรับรอง เนื่องจากมีประเทศหนึ่งใช้สิทธิ์วีโต้   ต่อจากนั้น ในช่วงเย็นวันที่  21 ตุลาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ เสนอร่างมติฉบับใหม่ ร่างมติที่เสนอโดยสหรัฐฯนี้ตัดทิ้งข้อความที่มีความเห็นพ้องต้องกันของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมองค์ประกอบหลายอย่างที่ยังคงมีความเห็นต่างในระดับลึกซึ้ง และเกินขอบเขตด้านมนุษยธรรม

สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจำนวนมาก รวมทั้งจีน รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบราซิล จึงเสนอให้แก้ไขร่างมติดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ประเทศที่เสนอร่างมติดังกล่าวเพิกเฉยต่อข้อกังวลหลักของสมาชิกที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการแก้ไขร่างมติเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็เร่งให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงคะแนนเสียงให้ผ่านร่างมติฉบับนั้น

ผู้แทนจีนชี้ว่า จีนไม่ได้คัดค้านการใช้ปฏิบัติการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม จีนเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแสดงบทบาทที่รับผิดชอบตลอดเวลา  สิ่งที่จีนคัดค้านคือ ร่างมติที่เสนอโดยสหรัฐฯหลีกเลี่ยงประเด็นเร่งด่วนที่สุดในการยุติความเป็นปรปักษ์  และไม่ได้เรียกร้องให้หยุดยิงทันทีด้วยวาทะที่ชัดเจนและไม่คลุมเครือ

ผู้แทนจีนยังกล่าวด้วยว่า  หากมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่มีความชัดเจนในเรื่องสงคราม สันติภาพ และความเป็นความตาย  ไม่เพียงแต่ขาดความรับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งด้วย ไม่ต่างอะไรกับการปูทางสำหรับปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ และเปิดไฟเขียวให้ยกระดับในการทำสงคราม

ผู้แทนจีนย้ำว่า จีนไม่ได้เพิกเฉยต่อการกระทำที่เป็นอันตรายต่อพลเรือนแต่อย่างใด (yim/cai)