นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานาธิบดีจีนได้เดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และนายหวอ วัน เทือง ประธานาธิบดีเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคมที่ผ่านมา

ระหว่างการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศสถานะใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคและสองประเทศบนพื้นฐานการกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมทุกด้านจีน-เวียดนาม  ร่วมกันสร้างประชาคมจีน-เวียดนามที่มีอนาคตร่วมกันที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกว่าทั้งสองพรรคและสองประเทศจะสามัคคีและเป็นมิตรกัน เดินบนหนทางสังคมนิยมด้วยกันอย่างแน่วแน่ และร่วมกันก้าวไปสู่ความทันสมัย นี่เป็นป้ายบอกระยะทางใหม่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-เวียดนาม และจะสร้างคุณูปการใหม่ต่อเสถียรภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและของโลก

ผู้นำสูงสุดของสองพรรคและสองประเทศได้สร้างความไว้วางใจทางการเมืองที่มั่นคงและมิตรภาพของสหายสนิท กำหนดทิศทางขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศและให้คำชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 เป็นต้นมา เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิง และเลขาธิการใหญ่เหวียน ฝู จ่อง ได้แลกเปลี่ยนการเยือนสามครั้ง ส่งจดหมายถึงกันในโอกาสเทศกาลสำคัญๆ ทั้งยังได้รักษาการสื่อสารการแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดผ่านทางโทรศัพท์และวิธีการอื่นๆ  ครั้งนี้นับเป็นการเยือนระหว่างกันรอบที่ 3 ของประมุขทั้งสอง นายเหวียน ฝู จ่อง ได้จัดพิธีต้อนรับนายสี จิ้นผิงอย่างยิ่งใหญ่ ได้จัดการหารือและร่วมดื่มชาพูดคุยในวงแคบ เลขาธิการใหญ่เหวียน ฝู จ่องและภริยา และประธานาธิบดีหวอ วัน เทืองและภริยา ได้ร่วมกันจัดงานเลี้ยงต้อนรับเลขาธิการใหญ่และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและนางเผิง ลี่หยวน ภริยาอย่างยิ่งใหญ่ บรรดากรรมการกรมการเมืองและเลขาธิการประจำสำนักเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม รวมถึงผู้นำระดับสูงคนอื่นๆ ต่างได้เข้าร่วมงานดังกล่าว สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระดับสูงระหว่างจีน-เวียดนามอย่างสมบูรณ์ จีนและเวียดนามได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวพันถึงสถานการณ์โดยรวม ยุทธศาสตร์ และทิศทางในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพรรคและสองประเทศ ตลอดจนประเด็นระหว่างประเทศและภูมิภาคที่สนใจร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ก้าวสู่ขั้นใหม่

จีนและเวียดนามสนับสนุนซึ่งกันและกันในการต่อสู้เพื่อเอกราชของชาติและการปลดปล่อยชาติ และเรียนรู้จากกันและกันในการปฏิรูป การเปิดประเทศ และการดำเนินการด้านนวัตกรรม “เวียดนามและจีนมีมิตรภาพที่แน้นแฟ้น เป็นทั้งสหายและพี่น้อง” ถือเป็นคำสะท้อนความสัมพันธ์จีน-เวียดนามที่ชัดเจนที่สุด จีนและเวียดนามก้าวหน้าอย่างมั่นคงในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน นี่เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญโดยพิจารณาจากการฟื้นฟูสังคมนิยมโลกและการบรรลุสันติภาพและเสถียรภาพในระยะยาวระหว่างจีนกับเวียดนาม ซึ่งหยั่งรากลึกในมิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างจีนกับเวียดนามและสอดคล้องกับผลประโยชน์และความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ

เพื่อสร้างประชาคมจีน-เวียดนามที่มีอนาคตร่วมกัน ต้องก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องด้านการเมือง เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกันด้านความมั่นคง ยกระดับคุณภาพด้านความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม เพิ่มการลงทุนตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ร่วมมืออย่างใกล้ชิดในประเด็นระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดปรองดองในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทะเล ข้อเสนอแนะดังกล่าวของนายสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นถึงทิศทางในการสร้างประชาคมจีน-เวียดนามที่มีอนาคตร่วมกัน นายเหวียน ฝู จ่อง กล่าวว่าเวียดนามยินดีที่จะทำงานร่วมกับจีนเพื่อสร้างประชาคมเวียดนาม-จีนที่มีอนาคตร่วมกันที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ส่งเสริมความร่วมมืออย่างครอบคลุมในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า ความมั่นคง ภาคเอกชน และสาขาอื่นๆ และสร้างต้นแบบแห่งการอำนวยประโยชน์แก่กันและได้ชัยชนะด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งรัฐบาลและประชาชนสองประเทศ เวียดนามได้แสดงอย่างชัดเจนว่ายึดมั่นในหลักการจีนเดียวอย่างแน่วแน่ คัดค้านอิทธิพลใดๆเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจีน สนับสนุนอย่างแข็งขันและยินดีที่จะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในข้อริเริ่มระดับโลกที่สำคัญที่เสนอโดยนายสี จิ้นผิง ซึ่งรวมถึงข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ข้อริเริ่มว่าด้วยการพัฒนาของโลก ข้อริเริ่มว่าด้วยความมั่นคงของโลก และข้อริเริ่มว่าด้วยอารยธรรมของโลก

ทั้งจีนและเวียดนามต่างก็กำลังขับเคลื่อนภารกิจการสร้างสังคมนิยมให้ทันสมัย ต่างก็ถือความสัมพันธ์จีน-เวียดนามเป็นทิศทางสำคัญในนโยบายต่างประเทศของตน และต่างก็มองการพัฒนาของอีกฝ่ายเป็นโอกาสในการพัฒนาของตน จีนกำลังผลักดันภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการสร้างประเทศให้เข้มแข็งและฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประเทศในทุกด้านด้วยความทันสมัยแบบจีน การก้าวสู่ความทันสมัยของชาวจีนมากกว่า 1,400 ล้านคนนั้นถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จีนนำมาให้กับทั่วโลก จีนยินดีแบ่งปันโอกาสและแสวงหาการพัฒนาร่วมกันกับสหายชาวเวียดนาม ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ เลขาธิการใหญ่ของทั้งสองพรรคได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคี ซึ่งครอบคลุมการร่วมสร้าง  “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” การตรวจสอบและกักกันโรค ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาสีเขียว การคมนาคมขนส่ง ความร่วมมือระดับท้องถิ่น ความร่วมมือเพื่อความมั่นคงด้านกลาโหมและการบังคับใช้กฎหมาย ความร่วมมือทางทะเล และด้านอื่นๆ มากกว่า 30 สาขา ความร่วมมือในทางปฏิบัติที่มีลักษณะครอบคลุม มั่นคง และยั่งยืนเหล่านี้ย่อมจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเปิดบทใหม่ของการร่วมกันก้าวไปสู่ความทันสมัยอย่างแน่นอน （IN/LU）