เนื่องในโอกาสปีใหม่ 2024 มาถึง ผู้นำหลายประเทศและหัวหน้าองค์กรระหว่างประเทศได้กล่าวคำอวยพรปีใหม่ เรียกร้องให้ประชาชนทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จัดการข้อขัดแย้งและสร้างอนาคตที่สงบสุข สวยงาม และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวว่าปี 2024 หวังว่าจะเป็นปีแห่งความก้าวหน้า พร้อมอวยพรให้ประชาชนคนไทยประสบความสำเร็จและมีเสถียรภาพในปีใหม่

นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า ปี 2023 เป็นปีแห่งความยากลำบากและรุนแรง มนุษยชาติกำลังทุกข์ทรมาน พวกเราต้องจัดการข้อขัดแย้ง ร่วมกันแสวงหาวิธีแก้ไขปัญหา สหประชาชาติมุ่งมั่นจะสร้างความสามัคคีของโลกอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่าความสามัคคีของประชาชนรัสเซียเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ รัสเซียเป็นประเทศและเป็นครอบครัวเดียวกัน พวกเราต้องประกันการพัฒนาอย่างมั่นคงของประเทศ และความผาสุกของประชาชน พวกเราจะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นายแอมานุแอล มาครง  ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่าในปี 2023 สภาพการณ์ทางภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศมีความตึงเครียดมากขึ้น และฝรั่งเศสได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้งเช่นกัน โดยเกิดการโจมตีจากผู้ก่อการร้าย และเกิดความแตกแยกและความเกลียดชังภายในประเทศ อัตราเงินเฟ้อก็รุนแรงขึ้น ในปี 2024 ฝรั่งเศสจะส่งเสริมนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชาวฝรั่งเศสและชาวยุโรปอื่น ๆ ยังจะร่วมการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปและทำการคัดเลือกที่สำคัญ โดยหวังว่ายุโรปจะแข็งแกร่งขึ้น

นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ชี้ว่าปี 2023 ที่ผ่านมา สถานการณ์ของโลกสลับซับซ้อนมากและเต็มไปด้วยการท้าทาย ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ เศรษฐกิจของสิงคโปร์เติบโต 1.2% และได้หลีกเลี่ยงภาวะถดถอย เขาเน้นย้ำว่าความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์การเมือง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ฯลฯ จะยังคงส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์ในปี 2024 ในเวลาเดียวกัน ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์จะนำความหวังมาสู่ทั้งธุรกิจและประชาชน

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่าญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หวังว่าจะบรรลุการพัฒนาอย่างแข็งแกร่งในปีใหม่ เพื่อให้ประชาชนเชื่อว่าจะสามารถมีอนาคตที่ดีขึ้น

นาย ยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่าปี 2024 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับเกาหลีใต้ในการก้าวกระโดดอีกครั้ง ด้วยการฟื้นตัวของการค้าโลก เศรษฐกิจเกาหลีใต้ก็จะมีพลังมากขึ้น （Bo/Ldan/Zhou）