ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเทศกาล “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” แรกของทั้งปี ซึ่งก็คือเทศกาลตรุษจีนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น  โดยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม การยื่นขอขึ้นทะเบียน “ตรุษจีน—การปฏิบัติทางสังคมของชาวจีนในการเฉลิมฉลองปีใหม่แบบดั้งเดิม” ของจีนผ่านการพิจารณาและได้รับการบรรจุในรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก ถือเป็นการสร้างความประทับใจให้กับโลกอีกครั้งด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน

ความสำเร็จในการขึ้นทะเบียนฯ ของตรุษจีน ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและความเข้มแข็งของประเทศชาติ ปลูกฝังจิตสำนึกประชาคมร่วมของประชาชาติจีน

เมื่อเร็วๆ นี้ ข่าวความสำเร็จของการขึ้นทะเบียนฯ ของตรุษจีนติดเทรนด์ในโซเชียลมีเดียจีน คำที่คนแชร์ต่อกันมากที่สุดคือ “ภูมิใจ” และ “ยินดี” แสดงถึงความรู้สึกยึดมั่นและผูกพันธ์ในวัฒนธรรมตรุษจีนของชาวจีน ตรุษจีนเป็นเทศกาลดั้งเดิมที่มีความหมายลึกซึ้งที่สุด มีเนื้อหาที่หลากหลายที่สุด มีผู้เข้าร่วมเฉลิมฉลองมากที่สุด และมีอิทธิพลกว้างขวางที่สุดในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นการติดกลอนคู่ การทำเกี๊ยว หรือการเดินเที่ยวงานวัด ชาวจีนทั่วโลกต่างมีวิธีฉลองตรุษจีนในแบบของตนเอง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ การรวมตัวทั้งครอบครัว และการอธิษฐานขออนาคตที่สดใส

ผ่านเวลาที่ยาวนาน ตรุษจีนยังคงเป็นสายใยแห่งความรู้สึกที่เชื่อมโยงระหว่างบุคคล ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เป็นความทรงจำร่วมของชาวจีน และพิธีกรรมที่ฝังลึกในจิตวิญญาณของคนจีน

ในพิธีกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตรุษจีน ยังได้สร้างมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้หลายแขนง เช่น ประเพณีปากเปล่า การปฏิบัติทางสังคม พิธีเฉลิมฉลองและงานฝีมือดั้งเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของชาวจีนต่อครอบครัว ศีลธรรม ธรรมชาติและกาลเวลา

ความสำเร็จในการขึ้นทะเบียนฯ ของตรุษจีน เป็นผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาทางวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างสร้างสรรค์

ตรุษจีนได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในฐานะ “การปฏิบัติทางสังคม” โดยไม่ระบุบุคคลผู้สืบทอด เพราะผู้สืบทอดมรดกตรุษจีนคือคนจีนทุกคน ทีมที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนตรุษจีนเปิดเผยว่าในการเลือกพื้นที่หรือกิจกรรมตัวอย่างสำหรับการเขียนเอกสาร ยื่นขอ จะเลือกสถานที่หรือโครงการที่มีลักษณะเฉพาะ เพื่อเขียนลงในเนื้อหาเอกสาร การเฉลิมฉลองตรุษจีนในยุคปัจจุบัน ยังได้พัฒนาประเพณีเก่าให้มี “รูปแบบใหม่” เช่น การฉลองตรุษจีนในพิพิธภัณฑ์ การชมงานที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรม หรือการดูภาพยนตร์ในช่วงตรุษจีน นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมแชร์ประเพณีพื้นบ้านและอาหารท้องถิ่นของบ้านเกิดในโลกออนไลน์ ทำให้ตรุษจีนได้รับการเติมเต็มด้วยความหมายและชีวิตชีวาในยุคใหม่ ความสำเร็จในการขึ้นทะเบียนรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของตรุษจีนนั้นเกิดขึ้นจากทุกคนที่ใช้ชีวิตอย่างใส่ใจ

ความสำเร็จในการขึ้นทะเบียนฯ ของตรุษจีน แสดงถึงการขยายซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ และอิทธิพลของวัฒนธรรมจีน

จากข้อมูลที่มีอยู่พบว่าประมาณ 20 ประเทศได้กำหนดให้ตรุษจีนเป็นวันหยุดราชการ ประชากรทั่วโลกประมาณ 1 ใน 5 เฉลิมฉลองปีใหม่ทางจันทรคติในรูปแบบต่าง ๆ ประเพณีตรุษจีนได้ขยายไปสู่เกือบ 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก เมื่อเดือนธันวาคมปี 2023 การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 78 ได้มีมติร่วมกันกำหนดให้ตรุษจีน (ปีใหม่ทางจันทรคติของจีน) เป็นวันหยุดของสหประชาชาติ จิตวิญญาณแห่งสันติภาพ ความสามัคคี และความสมานฉันท์ของตรุษจีนมีอิทธิพลต่อโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ โคมจีน การตัดกระดาษติดหน้าต่าง ตราสัญลักษณ์ตัวอักษร “福” หรือ ศิริมงคล และอาหารจานเด่นของจีน ได้แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของเทศกาลจีนจากมุมมองที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้เกิดจากความพยายามของชาวจีนในการส่งเสริมวัฒนธรรมจีน ปฏิบัติตามข้อริเริ่มอารยธรรมโลก และสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมวลมนุษยชาติ

“แต่ละยุคสมัยล้วนมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง วัฒนธรรมจะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามกาลเวลาและเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคใหม่” ในปัจจุบันที่สังคมและกำลังการผลิตเปลี่ยนแปลงไป เทศกาลตรุษจีนซึ่งถือกำเนิดมาจากสังคมเกษตรกรรมยังคงถูกสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นเป็นเพราะลูกหลานชาวจีนทุกสมัยยังคงรักษาความผูกพันธ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมกับเติมเต็มความหมายและคุณค่าใหม่ๆ ให้กับเทศกาลนี้ ในฐานะผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม “ตรุษจีน” พวกเราคนจีนทุกคนสามารถทำให้เทศกาลตรุษจีนในทุกปีเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา สร้างสรรค์วัฒนธรรมตรุษจีนให้มีเอกลักษณ์ของยุคสมัยปัจจุบัน (Bo/Ldan)